ทราเวอร์ทีน คือ หินธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้ในงานก่อสร้างตั้งแต่สมัยโรมันแล้ว แต่หากเมื่อได้ยินชื่อนี้แล้วหลาย ๆ คนอาจจะไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับหินชนิดอื่นเช่นหินอ่อนและหินแกรนิต
แต่คุณรู้หรือไม่ หินธรรมชาติชนิดนี้มีเอกลักษณ์และความงดงามเฉพาะตัว ด้วยสีสันที่มีตั้งแต่สีเทา ไปจนถึงสีทอง อีกทั้งยังมีประโยชน์ที่หลากหลายสามารถนำมาปรับใช้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ตั้งแต่การนำมาปูพื้นไปจนถึงทำเป็นผนัง รวมไปถึงการนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างเช่นที่นั่ง ท็อปเคาน์ เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ทราเวอร์ทีนจะเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยอารยธรรมโรมัน
หากคุณมีความสนใจในหินทราเวอร์ทีน บทความนี้จะพาไปรู้จักตั้งแต่การกำเนิด คุณสมบัติ ไปจนถึงการดูแลรักษา ผมรับรองว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบ คุณจะมีความเข้าใจและหลงใหลหินชนิดนี้มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ทราเวอร์ทีน คือ หินตะกอนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการตกตะกอนอย่างรวดเร็วของแคลเซียมคาร์บอเนตและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำพุตามธรรมชาติผสมรวมกันทำให้หินชนิดนี้มีลวดลายและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์
ปกติแล้วสีของทราเวอร์ทีนจะมาในโทนสีอ่อนและอุ่น ๆ ช่วยให้ความรู้สึกที่สบาย ๆ โดยมีตั้งแต่ สีเทา สีเบจ สีน้ำตาล ไปจนถึงสีทอง เป็นต้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหินชนิดนี้
ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของหินทราเวอร์ทีนคือ “รูพรุน” โดยหินธรรมชาติชนิดนี้เป็นหินที่มีรูพรุนอยู่ค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีน้ำหนักที่เบากว่าเมื่อเทียบกับหินตะกอนชนิดอื่น ๆ
เหมืองหินทราเวอร์ทีนสามารถพบได้ทั่วโลก ซึ่งเหมืองใหญ่ที่โดดเด่นจะมาจากประเทศ อิตาลี ตุรกี หรือเม็กซิโก แต่ก็มีเหมืองจากประเทศอื่น ๆ อยู่ด้วย เช่น อิหร่าน จีน โครเอเชีย เปรู เป็นต้น
หินทราเวอร์ทีนที่มาจากเหมืองที่แตกต่าง ก็จะมีสีสันและลวดลายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ ของแต่ละสถานที่ ซึงเป็นปัจจัยในการกำหนดสีสันและลวดลายของหิน
โดยเหมืองหินทราเวอร์ทีนก็มีวิธีการทำเหมืองคล้ายคลึงกับเหมืองหินธรรมชาติส่วนใหญ่อื่น ๆ คือการตัดเป็นบล็อกหินขนาดใหญ่ก่อน ก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อตัดเป็นสแลปและไซส์เล็กตามขนาดที่ต้องการ
มีหลักฐานการกล่าวถึงทราเวอร์ทีนครั้งแรกเมื่อ 75 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งตรงกับสมัยของจูเลียสซีซา ที่น้ำพุร้อนใน Tivoli ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอิตาลีในปัจจุบัน มีทราเวอร์ทีนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ทราเวอร์ทีนกลายเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่นิยมในการนำมาก่อสร้างในสมัยโรมัน
สิ่งก่อสร้างอันขึ้นชื่อของโรมันที่ยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันอย่างโคลอสเซียมก็มีการนำทราเวอร์ทีนมาเป็นวัสดุหลัก หรือจริง ๆ แล้วเกือบทั้งหมดของโคลอสเซียมถูกสร้างขึ้นด้วยทราเวอร์ทีน
ต่อมาในยุคเรเนซอง มิเกลันเจโล ศิลปินเอกแห่งยุคก็ได้เลือกใช้ทราเวอร์ทีนในการก่อสร้างภายนอกมหาวิหารนักบุญเปรโต ซึ่งสิ่งที่ทำให้ชาวโรมันและมิเกลันเจโลเลือกใช้ทราเวอร์ทีนเพราะความสวยงามและความทนทานของหินชนิดนี้ ในปัจจุบันทราเวอร์ทีนถูกนำมาปรับใช้ในหลายรูปแบบตั้งแต่ที่อยู่อาศัยไปจนถึงอาคารสำนักงาน
ทราเวอร์ทีนก็เหมือนกับหินธรรมชาติชนิดอื่น ๆ คือสามารถสวยงามได้อย่างยาวนานภายใต้การดูแลรักษาที่เหมาะสม โดยควรเลือกการทำหน้าหินให้เหมาะสมกับพื้นที่ ๆ ต้องการจะติดตั้ง และทราเวอร์ทีนควรทาน้ำยากันซึมก่อนการติดตั้ง เพื่อป้องกันคราบสิ่งสกปรกหรือความชื้นซึมเข้าสู่เนื้อหินและทำลายเนื้อหิน วิธีการดูแลรักษาง่าย ๆ ในเบื้องต้นเพียงแค่เช็ดคราบที่กระเด็นเกาะอยู่หน้าหินให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ซึมเข้าสู่เนื้อหิน
เช่นเดียวกับหินตะกอนประเภทอื่น ๆ เนื่องด้วยทราเวอร์ทีนประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นหลัก จึงมีความไวต่อสะสารที่มีคุณสมบัติเป็นกรด ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะนาว สบู่ น้ำอัดลม น้ำส้ม เป็นต้น ดังนั้นจึงควรระมัดระวังไม่ให้สิ่งเหล่านี้กระเด็นใส่หน้าหินทราเวอร์ทีน เพราะอาจจะทำลายหน้าหิน ทำให้เกิดรอยด่างขึ้นมาได้
เนื่องจากพื้นผิวของทราเวอร์ทีนมีรูพรุนอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งบางรูอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้สิ่งสกปรกสามารถซึมเข้าสู่เนื้อหินได้ง่าย ดังนั้นการเคลือบน้ำยากันซึมก่อนการติดตั้งเพื่อปกป้องหินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยจะสามารถยืดอายุการใช้งานและคงสภาพหน้าหินให้สวยงามยาวนานขึ้น และควรจะเคลือบน้ำยากันซึมใหม่ทุก ๆ 3-5 ปี เพื่อปกป้องรักษาหินของเรา
ในส่วนของการทำความสะอาดทราเวอร์ทีน ควรจะใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับตัวหิน ไม่มีฤทธิ์แรงจนเกินไปเพราะอาจจะกัดกร่อนหน้าหินได้ และนอกจากนั้นควรระมัดระวังไม่ให้สสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดสัมผัสกับหน้าหินโดยตรง